Butterfly Effect
“Butterfly Effect” “ทฤษฎีผีเสื้อกระพือปีก (Butterfly effect)” อันลือลั่นนั้น ไม่ได้มีความเกี่ยวเนื่องกับการศึกษาวงจรชีวิตของเจ้าผีเสื้อตัวน้อยแต่อย่างใด แต่เกิดจากการทดลองทางด้านการพยากรณ์อากาศ ในปี ค.ศ. 1961 ของเอ็ดเวิร์ด ลอเรนซ์ (Edward Lorenz) ด้วยการใช้คอมพิวเตอร์สร้างแบบจำลองสภาพอากาศ ซึ่งในการคำนวณครั้งถัดมาเขาไม่ต้องการเริ่มแบบจำลองจากจุดเริ่มต้นใหม่เพื่อประหยัดเวลาในการคำนวณ เขาจึงใช้ข้อมูลในการคำนวณก่อนหน้านี้เพื่อเป็นค่าเริ่มต้น เขาพบว่าสาเหตุเกิดจากการปัดเศษ จากการคำนวณค่าที่ใช้ในคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีค่าน้อยมากแม้แค่เพียง .0000001 ที่คลาดเคลื่อนไปนั้นก็สามารถนำไปสู่ความแตกต่างอย่างมากมาย เรียกว่าไวต่อสภาวะเริ่มต้น ซึ่งก่อให้เกิดกราฟรูปผีเสื้อ ในปี พ.ศ.2515 เขาได้นำผลการทดลองที่เกิดขึ้นไปบรรยายในสมาคม Advancement of Science ของอเมริกา ที่ Washington, D.C โดย โดยใช้หัวข้อว่า การกระพือปีกของผีเสื้อในประเทศบราซิลก่อให้เกิดพายุทอนาโดในรัฐเท็กซัสได้หรือไม่ นับตั้งแต่นั้นมาคำว่า Butterfly Effect ก็เริ่มมีการนำไปใช้อย่างแพร่หลายในวงกว้างขวาง ทั้งการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติ และการเปลี่ยนแปลงทางสังคม ตัวอย่างการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติ เช่น ปรากฏการณ์เอลนีโญ ที่เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ปฏิสัมพันธ์ระหว่างการหมุนเวียนของกระแสอากาศกับกระแสน้ำในมหาสมุทร เมื่อเกิดเอลนีโญ ปริมาณฝนของไทยมักมีค่าต่ำกว่าปกติ เนื่องจากพายุเปลี่ยนทิศทาง จากเดิมที่ก่อตัวจากมหาสมุทรแปซิฟิกด้านตะวันออกของหมู่เกาะฟิลิปปินส์ และเคลื่อนเข้าไทย 3-4 ลูกต่อปี…